วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

`Heineken__*


ไฮเนเก้น (Heineken) เป็นเบียร์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เริ่มกำเนิดในเมื่อ 142 ปีที่แล้ว ค.ศ.1863 โดยเป็นธุรกิจครอบครัวของ เจอร์ราด อาเดรียน ไฮเนเก้น ชาวดัตช์ โดยได้ซื้อโรงเบียร์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัม
ไฮเนเก้นเริ่มเข้ามาในประเทศไทยมาประมาณ 10 ปี ปัจจุบันยอดขายของไฮเนเก้นประเทศไทยตอนนี้ประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยมูลค่าตลาดรวมของเบียร์พรีเมียมประมาณ 8,000 ล้าน

หลังจากไฮเนเก้นเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างป็นทางการฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก มาเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ล่าสุดต่อสัญญาอีก 3 ปี เพื่อสานต่อกลยุทธ์ Football Marketing โดยใช้ศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปเป็น ปีนี้ไฮเนเก้นสร้างสีสันด้วยสนามฟุตบอลจำลองที่ทำจากกระป๋องเบียร์เป็นครั้งแรกในโลก ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อปูทางสู่งาน Heineken Star Final อีเวนต์ใหญ่ที่ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานชมการถ่ายทอดสดริมชายหาด จ.กระบี่ ต่อจากแอฟริกาใต้ พร้อมกับผู้ชมกว่า 4,000 ล้านคนจาก 227 ประเทศทั่วโลก แม้ครั้งนี้ไฮเนเก้นจะไม่สามารถโปรโมตผ่านTVC ได้เต็มที่ นอกเหนือจากการใช้สีเขียวและก๊อบปี้ “Great Together” แต่ด้วยความที่แบรนด์ติดตลาด และพยายามหลีกเลี่ยงใช้สัญลักษณ์ก่อให้เกิดการรับรู้ได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้นคือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคยังรู้สึกผูกพันและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไฮเนเก้น ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกก็ถือเป็นหมัดเด็ดของไฮเนเก้นตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ครั้งนี้ใช้สื่อออนไลน์ดึงดูดคนเข้ามาร่วมกิจกรรมก่อนจะต่อยอดสู่อีเวนต์ใหญ่นัดชิงชนะเลิศ

Singha


ในการทำเบียร์นั้น วัตถุดิบสำคัญที่ใช้คือ ข้าวมอลต์ (Malt) น้ำ ดอกฮ็อพ (Hop) และ ยีสต์ (Yeast)
ข้าวมอลต์ ได้มาจากข้าวบาร์เลย์ ซึ่งเป็นธัญพืช ที่นิยมปลูกในประเทศ ที่มีภูมิอากาศเย็น จะมีการปลูกกันมาก ในประเทศทางทวีปยุโรป เช่น เยอรมนี ออสเตรีย อังกฤษ เดนมาร์ก และ ออสเตรเลีย ส่วนประเทศไทยมีการนำ สายพันธุ์ ข้าวบาร์เลย์เข้ามาปลูกในแถบ ภาคเหนือ ซึ่งมีภูมิอากาศเย็น มีการ ส่งเสริม การปลูกข้าวบาร์เลย์
น้ำ เป็นวัตถุดิบที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง เนื่องจากเบียร์มีส่วนประกอบที่เป็น น้ำมากกว่า 90% คุณภาพของน้ำ ที่ใช้สำหรับการ ผลิตเบียร์ขึ้นอยู่กับ ลักษณะของเบียร์ที่จะผลิต ความอ่อน ความกระด้างของน้ำจะมีผลต่อ รสชาติของเบียร์ หรือมีผลต่อความ เปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นในกระบวน การผลิต
คุณภาพของสินค้าเป็นหัวใจสู่ความสำเร็จของกลุ่มบริษัทบุญรอด การให้ความสำคัญกับการผลิต สินค้าคุณภาพเยี่ยมทำให้บุญรอดสามารถรักษาปณิธานดั้งเดิมนี้ไว้ได้ โดยมีการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดี ที่สุดจากธรรมชาติ ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัย และการตรวจสอบคุณภาพที่เข้มงวด ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้สินค้าของบุญรอดเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ ในทุกๆ วัน ผู้บริโภคนับล้านทั้งใน และต่างประเทศ ได้แสดงถึงความไว้วางใจในกลุ่มบริษัทของเรา โดยการเลือกซื้อสินค้าของบุญรอด ความเชื่อถือซึ่งมาจากการ ปูพื้นฐานภาพพจน์ด้านคุณภาพเป็นระยะเวลายาวนานถึง 6 ทศวรรษ

-:KFC:-


หุ่นชายแก่ ที่เราเห็น เวลาผ่านร้านเคเอฟซี นั้น คือผู้ก่อตั้งเคเอฟซี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เขาชื่อว่า ฮาร์แลนด์ ดี แซนเดอร์ส เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1890 มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นลูกชายคนโต เมื่อเขาอายุได้เพียง 6 ขวบ บิดาก็เสียชีวิตทำให้ แม่ต้องทำงาน เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว เพียงคนเดียว แซนเดอร์ส ยังเป็นเด็กน้อยอายุ 6 ขวบ ต้องรับภาระเลี้ยงดู น้องชายอายุ 3 ขวบ และน้องสาว ยังเล็กอยู่ เขาต้อง ทำงานบ้านทุกอย่าง รวมถึง ทำอาหารเองด้วย แซนเดอร์ส มีความสามารถในเรื่องนี้มาก จนได้รางวัลชนะเลิศ ในการประกวด ทำอาหารประจำหมู่บ้าน ขณะที่อายุได้เพียง 7 ขวบเท่านั้น .......แซนเดอร์สเริ่มรับจ้างทำงานครั้งแรก เมื่อมีอายุได้ 10 ปี โดยเริ่มจาก การทำงานในฟาร์มใกล้บ้านได้ค่าแรงเพียง เดือนละ 2 ดอลลาร์ และอายุได้ 12 ปี เขาก็ออกจากบ้าน ไปทำงานที่ฟาร์มในหมู่บ้านเฮนรี วิลล์ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้น ของชีวิตการทำงานหลาย ๆ อย่าง ที่เขาเคยทำ เช่น เป็นนักดับเพลิง ฝึกงานที่ศาล ขายประกัน ขายยาง ทำงานที่สถานีขนส่ง และเมื่ออายุ 47 ปี แซนเดอร์ส ก็เริ่มทำอาหารจำหน่ายที่สถานีขนส่ง ในรัฐเคนตั๊กกี้ ปรากฏว่า อาหารที่เขาทำเป็นที่นิยมมาก แซนเดอร์ส จึงลาออก ไปทำร้านอาหาร หลังจากนั้นอีก 9 ปี เขาได้คิดค้นสูตรการปรุงไก่ทอดด้วยส่วนผสมลับเฉพาะ จากเครื่องเทศ 11 ชนิด และใช้วิธีการทอดไก่แบบพิเศษ เพื่อรักษารสชาติ และความหอมอร่อย ของไก่ทอดไว้ ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดไก่ทอด สูตรต้นตำรับ เคเอฟซี แซนเดอร์ส สร้างชื่อให้รัฐ เคนตั๊กกี้มาก ผู้ว่าการรัฐจึงแต่งตั้งให้เขาเป็น "ผู้พันแซนเดอร์ส" เพื่อเป็นเกียรติ .......จนถึงวันนี้เคเอฟซี ได้ขยายสาขา มากกว่า 29,500 แห่งใน 92 ประเทศทั่วโลก ...โดยมี หุ่นจำลองของผู้พันแซนเดอร์ส ตั้งอยู่หน้าร้าน เหมือนเป็น เครื่องรับประกันถึงความอร่อย ของไก่ทอด ตำหรับ KFC COLONEL SANDERS THE LEGENDARY CHICKEN EXPERT

McDonal's~~


ประวัติความเป็นมาของ McDonald's ในไทย
ในปี พ.ศ.2528 นายเดช บุลสุข ผู้มีความประทับใจ ในรสชาติ และบริการของแมคโดนัลด์ เมื่อครั้งได้รับทุน American Field Service (AFS) ไปศึกษาในสหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกให้เป็น ผู้ร่วมดำเนินการร้านแมคโดนัลด์ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 35 ของโลก โดยมีสาขาแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า

ร้านแมคโดนัลด์ทั่วโลกดำเนินกิจการโดยมีหัวใจการทำงานคือ "QSC&V" ซึ่งหมายถึง Quality คุณภาพอาหารที่ดีมีมาตรฐานสม่ำเสมอ Service การบริการที่รวดเร็ว อบอุ่นและเป็นมิตร Cleanliness การรักษาความสะอาด และสุขอนามัย และ Value คุณค่าของอาหารและบริการที่คุ้มค่าคุ้มราคา


ภายใต้มาตรฐาน QSC&V นี้ แมคโดนัลด์เป็นสถานที่ที่ให้ความ "อร่อยรส สนุกล้ำ" แก่คนทั้งครอบครัว ด้วยอาหารทั้งคาวหวาน และเครื่องดื่มนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ หมู ปลา ไก่ แมคนักเก็ตไก่ และไก่ทอด หรือไอศกรีม และ ซันเด หลากรส บริการจัดงานวันเกิดสำหรับคุณหนูๆ ห้องเครื่องเล่นเด็ก (PLAY PLACE) และการสมัครเป็นสมาชิกโรนัลด์ แมคโดนัลด์คลับ ที่มอบสิทธิพิเศษและของกำนัลมากมายให้กับเด็กๆ ที่เป็นสมาชิก


วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

*PEPSI เต็มที่กับชีวิต*


เริ่มต้นที่นาย คาเลบ แบรดแฮม ซึ่งเป็นเภสัชกรจากเมือง นิวเบิร์น รัฐ แคโลไรนา ได้เปลี่ยนชื่อ "แบรด ดริงค์" ที่เขาได้คิดค้นปรุงขึ้นเพื่อลูกค้าในร้านขายยาของเขา ไปเป็นชื่อ ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้คือ "เป๊ปซี่ - โคคาโคล่า" ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1898เพื่อที่จะดำรงตำรับความเป็นเครื่องดื่มที่ผสมขึ้นโดยเภสัชชกร แบรดแฮมจึงทำการโฆษณาเครื่องดื่มของเขา อย่างค่อนข้างจะเกินจริงหน่อยๆว่า "สดชื่น มีชีวิตชีวา และช่วยในการย่อยอาหาร" ในปี 1903 และได้ตั้งโรงงานบรรจุขวด เป๊ปซี่-โคล่าสาขาแรก ขึ้นที่เมืองชาร์ล็อตและเดอร์แฮม รัฐ นอร์ธ แคร์โลไลนาอีสองปีต่อมาในปี 1905และใน ค.ศ. 1909 เป๊ปซี่ได้ดึงตัวนักแข่งรถระดับแถวหน้า บาร์นี่ โอล์ฟิลด์ ซึ่งถือเป็นพรีเซนเตอร์ผู้มีชื่อเสียงคนแรกของเป๊ปซี่ มาเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาเป๊ปซี่ทางหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า"เครื่องดื่มชั้นยอด...เติมความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เป็นเครื่องบำรุงกำลังสำหรับเารแข่งขันประลองความเร็ว"

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

`Coke`


โค้กถูกคิดค้นโดย ดร.จอห์น เพ็มเบอร์ตัน ที่เมืองแอตแลนต้าในมลรัฐจอร์เจีย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ.1886 เภสัชกรท้องถิ่นท่านนี้เป็นผู้ผลิตหัวเชื้อน้ำหวานมีเรื่องเล่ากันต่อมาว่าเมื่อ ดร.เพมเบอร์ตัน ปรุงหัวเชื้อน้ำหวาน ขึ้นมา ได้สำเร็จในหม้อทองเหลืองสามขา ซึ่งตั้งอยู่ในสนามหญ้าหลังบ้านของเขา ชายผู้นี้ก็รีบถือเหยือกที่บรรจุ น้ำหวานรสชาติใหม่ มุ่งตรงไปยังร้านขายยาจาค็อป ณ ที่นั่น หลายต่อหลายคน ได้ลิ้มลองน้ำหวานของ ดร.เพ็มเบอร์ตัน ต่างก็ชมเป็นเสียง เดียวกันว่า "รสชาติเยี่ยม" หลังจากนั้นไม่นาน ดร.เพ็มเบอร์ตัน ก็เริ่มปรุงเครื่องดื่มชนิดนี้ขายที่ร้านจาค็อปส์โดยคิดราคาแก้วละ 5 เซ็นต์ ต่อมาไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือไม่ ได้มีผู้นำน้ำอัดก๊าซคาร์บอนมาผสมกับหัวน้ำหวานที่ ดร.เพ็มเบอร์ตันปรุงขึ้น จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ "สดชื่น ดับกระหาย ได้รสชาติ" แม้จนกระทั่ง ในปัจจุบัน ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ดื่ม โคคา-โคลา ก็ต้องรู้สึกเช่นนั้น

Blu-ray อิอิ ><"


ซัมซุงเผยเครื่องเล่นแผ่นดิสก์ Blu-ray (บลู-เรย์) BD-P1000 นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากซัมซุง ซึ่งถือเป็นเครื่องเล่นแผ่นดิสก์มาตรฐาน Blu-ray เครื่องแรกจากผู้ผลิตจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนมาตรฐาน Blu-ray ในปัจจุบันพร้อมถึงเมืองไทยให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ของภาพความละเอียดสูงซึ่งสอดคล้องกับโทรทัศน์ระบบ HDTV (High-Definition Television) ที่มีอยู่ในปัจจุบันBlu-ray เป็นรูปแบบแผ่นดิสก์สำหรับยุคอนาคตอย่างแท้จริง ด้วยความจุที่ให้ความละเอียดของภาพสูงกว่าแผ่นดีวีดีทั่วไปถึง 5 เท่า จึงกลายเป็นฟอร์แมตที่ให้คุณภาพความคมชัดและความละเอียดของภาพสูงที่สุดในตลาดพร้อมทั้งยังได้รับการสนันสนุนจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกทั้งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลและสื่อบันทึกข้อมูลกว่า 170 รายทั่วโลก รวมถึงซัมซุงซึ่งเปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นดิสก์ Blu-ray รุ่น BD-P1000 ซึ่งกำหนดวางขายจริงทั่วโลก โดยเริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในราคา 999 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 40,000 บาท) สำหรับในประเทศไทย จะมีการวางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายชั้นนำของ ซัมซุงในเดือนตุลาคมนี้ที่ราคา 39,990 บาท